วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เครื่องซักผ้ายุคใหม่สะอาดได้ด้วยเทคโนโลยีโอโซน


เครื่องซักผ้ายุคใหม่สะอาดได้ด้วยเทคโนโลยีโอโซน


การแข่งขันทางด้านธุรกิจในยุคปัจจุบันนับได้ว่ามีการแข่งขันสูงมาก นอกเหนือจากทางด้านการตลาดแล้ว เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ยังมีส่วนช่วยให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าได้รวดเร็ว และดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และค่าใช้จ่ายซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นอย่างยิ่ง
เทคโนโลยีโอโซน อีกหนึ่งตัวเลือกที่นอกจากจะช่วยในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยในเรื่องของการสิ้นเปลืองพลังงานได้อีกด้วย และหนึ่งในอุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษในสถานประกอบการใหญ่ ๆ อย่างโรงแรม นั่นก็คือเครื่องซักผ้าจากแผนกซักรีด เพราะในแต่ละโรงแรมย่อมมีผ้าจำนวนมากที่มีไว้สำหรับบริการลูกค้า ทำให้แผนกซักรีดต้องทำงานตลอดเวลา
ดังนั้น ในการลดต้นทุนพลังงานในระบบซักผ้าของโรงแรมในปัจจุบัน จึงได้นำเทคโนโลยีโอโซนเข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย หลายโรงแรมต่างเริ่มหันมาให้ความสำคัญ และสนใจใช้ระบบนี้กันมาก ด้วยคุณสมบัติของโอโซนที่เป็นก๊าซออกซิเจนรูปแบบหนึ่งที่มีพลังแอ๊คทีฟออกซิเจน (Active Oxygen) สามารถทำปฏิกิริยาดังกล่าวเสร็จ โอโซนจะแปรสภาพกลับไปเป็นก๊าซออกซิเจนทำให้ไม่มีปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การทำงานของระบบโอโซนทำให้ใช้เวลาซักผ้าน้อยลง ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลงด้วย นอกจากนี้อายุการใช้งานของเครื่องซักผ้านานขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เพราะไม่ต้องใช้น้ำร้อนซักผ้า ไม่ต้องใช้สารเคมีฟอกผ้าขาว และลดการใช้น้ำทำให้โรงแรมลดต้นทุนซักผ้าได้
นายธีรยุทธ จิราธิวัฒน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายโครงการ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทรัล กล่าวว่า ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านอนุรักษ์พลังงานในภาคเอกชนระหว่างกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กับกลุ่มเซ็นทรัลซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและพลังงาน อีกปีละ 100 ล้านบาท โดยปีที่แล้วสามารถลดค่าไฟฟ้าและพลังงานได้ประมาณ 75 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้ทุ่มงบประมาณ 7-8 ล้านบาท เพื่อซื้อเทคโนโลยีโอโซนสำหรับซักผ้า รวมทั้งดำเนินมาตรการประหยัดไฟฟ้าและพลังงานต่าง ๆ สำหรับโรงแรมในเครือทั้งหมด 12 แห่งทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถลดต้นทุนไฟฟ้าและพลังงานได้ถึงปีละ 20 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้ผลที่ได้รับจากโรงแรมอย่างเห็นได้ชัดเจน 3 แห่ง คือ โซพิเทลเซ็นทรัลหัวหิน รีสอร์ท 1.5 ล้านบาทต่อปี เซ็นทรัลสมุยบีชรีสอร์ท 1.1 ล้านบาทต่อปี และโนโวเทลเซ็นทรัลสุคนธา กว่า 9.99 ล้านบาทต่อปี การปรบเปลี่ยนเทคโนโลยีครั้งนี้ช่วยทำให้โรงแรมทั้ง 3 แห่ง สามารถประหยัดได้รวมกันในแต่ละเดือน 150,000 บาท จากการลดขั้นตอนการซักผ้าที่ไม่ต้องใช้น้ำร้อนเข้ามาช่วย แต่ใช้ผลซักฟอกทำงานร่วมกับโอโซน และล้างน้ำเปล่าเพียงสองครั้งจากที่เคยล้างสามครั้ง
ยังมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับด้านพลังงานอีกหลายมาตรการที่ถูกคิดค้นมาจากฝีมือมนุษย์โดยอาศัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นตัวช่วย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้นอกจากเป็นพลังงานทางเลือกแล้วยังมีส่วนช่วยในการส่งเสริมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

ที่มา :"รักษ์พลังงาน" ฉบับที่ 42 เดือนพฤศจิยายน 2550 หน้า 14-15


ไม่มีความคิดเห็น: